ติดต่อ Connex Property ทางไลน์ ติดต่อ Connex Property ทาง facebook ติดต่อ Connex Property ทาง Message Facebook ติดต่อ Connex Property ทาง Whatapp ติดต่อ Connex Property ทาง โทรศัพท์มือถือ
เราตระหนักถึงความสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะเก็บข้อมูลของคุณไว้เป็นความลับอย่างดีที่สุด ขอแนะนำให้คุณกรุณาอ่านและทำความเข้าใจ นโยบายความเป็นส่วนตัว
หน้าหลัก / ขายคอนโด สุขุมวิท

ขายคอนโด สุขุมวิท

1 ถึง 106

ขายคอนโด สุขุมวิท: คู่มือฉบับนักลงทุน เจาะลึกตลาด มัดใจผู้ซื้อ ทำกำไรได้จริง

สุขุมวิท – ชื่อนี้ไม่ได้เป็นเพียงถนนสายยาว แต่คือหัวใจสำคัญของกรุงเทพฯ ที่เต้นระรัวด้วยจังหวะแห่งโอกาสและการลงทุนที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง สำหรับเจ้าของคอนโดที่กำลังมองหาช่องทาง ขายคอนโด สุขุมวิท หรือนักลงทุนที่กำลังศึกษาตลาดเพื่อเข้าซื้อทำกำไร บทความนี้คือขุมทรัพย์ข้อมูลเชิงลึกที่จะนำพาทุกท่านไปสำรวจทุกซอกทุกมุมของตลาดอสังหาฯ ย่านนี้ พร้อมเผยเคล็ดลับการวิเคราะห์แบบมืออาชีพ เพื่อให้การตัดสินใจของคุณไม่ใช่แค่การคาดเดา แต่เป็นการวางแผนที่แม่นยำและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สุขุมวิทได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นทำเลทองที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนไทยหรือต่างชาติ ต่างก็ให้ความสนใจในศักยภาพของพื้นที่นี้อย่างไม่ขาดสาย การทำความเข้าใจภาพรวมของตลาด แนวโน้มราคา และกลุ่มผู้ซื้อ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในการ ขายคอนโด สุขุมวิท และทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

1. รู้จักผู้ซื้อคอนโดสุขุมวิท: ตลาดนี้มีใครอยู่บ้าง?

ก่อนที่จะตัดสินใจ ขายคอนโด สุขุมวิท การทำความเข้าใจว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายหลักในตลาดนี้ จะช่วยให้คุณวางกลยุทธ์การตลาดและการตั้งราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลาดคอนโดสุขุมวิทมีความหลากหลายสูง แต่สามารถแบ่งกลุ่มผู้ซื้อหลัก ๆ ได้ดังนี้ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มผู้ซื้อหลักได้ที่นี่: ขายคอนโดสุขุมวิท-กลุ่มผู้ซื้อหลัก)

  • กลุ่มนักลงทุน: ผู้ซื้อกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Yield (ผลตอบแทนค่าเช่า) หรือ Capital Gain (กำไรจากส่วนต่างราคาขาย) พวกเขามองหาคอนโดที่สามารถปล่อยเช่าได้ง่าย มีผู้เช่าที่มีคุณภาพ และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต โครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้สถานีรถไฟฟ้า หรืออยู่ในย่านธุรกิจจึงมักเป็นที่นิยมของนักลงทุน
  • ผู้อยู่อาศัยระยะยาว (End-Users): กลุ่มนี้ต้องการคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง มักเป็นคนทำงานในเมือง หรือครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางและเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล หรือร้านอาหาร ผู้ซื้อกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับทำเล ความปลอดภัย คุณภาพของโครงการ และฟังก์ชันการใช้งานของห้องพัก
  • นักลงทุนต่างชาติ: สุขุมวิทยังคงเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่อการลงทุนหรืออยู่อาศัยเอง โดยเฉพาะชาวจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่มองเห็นศักยภาพของกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยว ผู้ซื้อกลุ่มนี้มักมองหาคอนโดระดับ High-End หรือ Luxury ที่มีบริการระดับโรงแรม และตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกสบายใกล้แหล่งธุรกิจสำคัญ ๆ เช่น อโศก ทองหล่อ หรือพร้อมพงษ์ (ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดคอนโดสุขุมวิทในย่านสำคัญ: สุขุมวิท-อโศก-ทองหล่อ-เอกมัย-พร้อมพงษ์-ประสานมิตร)

การเข้าใจความต้องการของแต่ละกลุ่มจะช่วยให้คุณสามารถนำเสนอคอนโดของคุณในมุมที่ดึงดูดใจ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อได้อย่างตรงจุด เพื่อการ ขายคอนโด สุขุมวิท ที่รวดเร็วและได้ราคาดีที่สุด

2. เทรนด์ราคาคอนโดสุขุมวิท: โซนไหนยังโต? โซนไหนเริ่มนิ่ง?

การวิเคราะห์แนวโน้มราคาเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ สำหรับผู้ที่ต้องการ ขายคอนโด สุขุมวิท การรู้ว่าโซนใดกำลังเติบโตและโซนใดเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว จะช่วยให้คุณวางแผนการขายได้อย่างชาญฉลาด (เจาะลึกเทรนด์ราคาแต่ละโซนได้ที่: ราคาคอนโด-สุขุมวิท-โซนไหนยังโต)

โดยทั่วไปแล้ว ราคาคอนโดในย่านสุขุมวิทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายหลัก และแหล่งธุรกิจสำคัญ

  • โซนที่ยังเติบโตสูง (Growth Zones):
  1. สุขุมวิทช่วงต้น (อโศก-พร้อมพงษ์-ทองหล่อ-เอกมัย): โซนนี้ยังคงเป็น Prime Area ที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากทั้งผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางธุรกิจ แหล่งไลฟ์สไตล์หรู และการคมนาคมที่สะดวกสบาย แม้ราคาจะสูงอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสเติบโตจากโครงการใหม่ๆ ที่เข้ามาเติมเต็มและยกระดับพื้นที่
  2. สุขุมวิทช่วงปลาย (พระโขนง-อ่อนนุช): โซนนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาคอนโดยังคงจับต้องได้มากกว่าโซนกลางสุขุมวิท แต่ยังคงได้รับอานิสงส์จากโครงข่ายรถไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ขยายตัวเข้ามา ผู้ซื้อกลุ่มคนรุ่นใหม่และนักลงทุนที่มองหา Yield ที่ดี มักจะให้ความสนใจในโซนนี้
  • โซนที่เริ่มนิ่ง (Mature Zones):
  1. สุขุมวิทช่วงกลาง (นานา-อโศก): แม้จะเป็นทำเลทองที่มีความต้องการสูงมาโดยตลอด แต่ด้วยราคาที่พุ่งสูงไปมาก ทำให้การเติบโตของราคาในรูปแบบ Capital Gain เริ่มชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม Yield จากการปล่อยเช่ายังคงแข็งแกร่ง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นกระแสเงินสด
  2. สุขุมวิทตอนปลาย (บางนา-แบริ่ง): โซนนี้เป็นประตูสู่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ซึ่งมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยซัพพลายที่เข้ามาในตลาดจำนวนมาก ทำให้การแข่งขันสูงขึ้นและราคาอาจไม่ได้หวือหวาเท่าโซนสุขุมวิทตอนต้นและตอนกลาง อย่างไรก็ตาม ด้วยความได้เปรียบด้านราคาที่ดินที่ถูกกว่า และการพัฒนาเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ยังคงทำให้โซนนี้เป็นที่น่าจับตาในระยะยาว

มุมมองสำหรับการ “เข้า-ออก” ตลาด:

  • สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าซื้อ: ควรพิจารณาโซนที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตของ Capital Gain เช่น พระโขนง-อ่อนนุช หรือโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในทำเลที่สำคัญ เพื่อให้ได้ราคาต้นทุนที่คุ้มค่า
  • สำหรับผู้ที่ต้องการขายคอนโด สุขุมวิท: หากคอนโดของคุณอยู่ในโซนที่ราคานิ่งแล้ว และต้องการทำกำไรสูงสุด ควรพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขาย โดยเน้นการสร้างจุดเด่นให้กับห้อง เช่น การตกแต่งที่ทันสมัย หรือการบำรุงรักษาที่ดี เพื่อเพิ่มมูลค่าการขาย หรือพิจารณาการปล่อยเช่าเพื่อสร้างกระแสเงินสด (ศึกษาตลาดปล่อยเช่าเพิ่มเติมได้ที่: เช่าคอนโด)

3. คอนโดใหม่ vs มือสองในสุขุมวิท: ความต่างที่นักลงทุนควรรู้

ทำไมบางคนเลือก Resale มากกว่า Pre-sale?

การลงทุนในคอนโดมิเนียมมีสองทางเลือกหลัก:

  • Pre-sale (คอนโดใหม่จากโครงการ)
     
  • Resale (คอนโดมือสองพร้อมอยู่)
     

การเลือกซื้อขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของคุณ:

Pre-sale (โครงการใหม่):

  • ราคาต่อ ตร.ม. ช่วงเปิดตัวมักต่ำกว่า (แต่ไม่เสมอไปในสุขุมวิท)
     
  • ได้ห้องใหม่ ไม่ต้องซ่อม
     
  • เหมาะกับนักลงทุนที่มองกำไรจาก Capital Gain เมื่อโครงการสร้างเสร็จ
     

Resale (คอนโดมือสอง):

  • ต่อรองราคาง่าย โดยเฉพาะในภาวะที่เจ้าของต้องการขายด่วน
     
  • มีโอกาสซื้อ “ของดี” ที่ราคาถูกกว่าราคาตลาด
     
  • เหมาะกับนักลงทุนที่มองผลตอบแทนปล่อยเช่า (Rental Yield) ทันที
     

ตัวอย่างจาก Connex Property:

  • Ideo Q Sukhumvit 36 : ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 (มือสอง) – ราคาต่อ ตร.ม. ต่ำกว่าโครงการใหม่ที่อยู่ใกล้กัน 10–15%
     
  • The Esse Sukhumvit 36 : ดิ เอส สุขุมวิท 36 (Pre-sale) – โครงการใหม่แต่ราคาทะลุ 300,000 บ./ตร.ม. ไปแล้ว
     

 

4. ลงทุนอย่างมืออาชีพ: วิเคราะห์ Capital Gain & Rental Yield

คอนโดแบบไหนปล่อยเช่าได้ง่ายในสุขุมวิท?

ไม่ใช่ทุกโครงการในสุขุมวิทที่ “ปล่อยเช่าได้ดี” เพราะนักลงทุนจำนวนไม่น้อยเจ็บตัวจากห้องที่ปล่อยนานแต่ไม่มีผู้เช่า

สิ่งที่ควรดูคือ:

  • ใกล้ BTS เดินถึงจริง (ไม่ใช่แค่ระบุในโบรชัวร์)
     
  • มี demand จากผู้เช่าต่างชาติ เช่น ย่านพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย
     
  • Facilities ที่ตอบโจทย์ lifestyle คนเมือง เช่น Co-working, Fitness 24 ชม., Sky lounge
     

วิเคราะห์ตัวเลข Rental Yield ในสุขุมวิท

อ้างอิงจากข้อมูลของกรมธนารักษ์ และวิเคราะห์เปรียบเทียบโดย Connex Property



ทำเล

โครงการ

Yield เฉลี่ย
(ต่อปี)

พระโขนง – อ่อนนุช

คอนโดมือสอง
(Resale)

5.5% – 6.2%

ทองหล่อ – พร้อมพงษ์

โครงการใหม่

3.8% – 4.2%

หมายเหตุ: Yield ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ "ทำเล" แต่ยังขึ้นกับ "ราคาที่คุณซื้อ" ด้วย เช่น ซื้อคอนโดมือสองราคาดีในทำเลที่ยังมีดีมานด์ อาจให้ Yield ดีกว่าโครงการใหม่ใน prime zone

 


 

5. เจาะลึกโซนลับสุขุมวิท ที่ยังไม่ Peak แต่น่าลงทุน

สุขุมวิทไม่ได้มีแค่ทองหล่อหรือพร้อมพงษ์เท่านั้น แต่ยังมี "โซนลับ" ที่ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการซื้อคอนโดในราคาที่ยังไม่สูงมาก แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นในอนาคต นี่คือสองโซนที่คุณไม่ควรมองข้าม หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการลงทุน หรือวางแผนที่จะ ขายคอนโด สุขุมวิท ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า (ค้นพบทำเลน่าลงทุนอื่นๆ ได้ที่: ทำเลน่าลงทุน-สุขุมวิท-ปีนี้)

  • พระโขนง – อ่อนนุช (สุขุมวิท 71-77):
     
  1. ศักยภาพ: โซนนี้เป็นประตูสู่สุขุมวิทตอนปลายที่เชื่อมต่อกับพื้นที่สำคัญต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ราคาที่ดินและคอนโดยังคงจับต้องได้มากกว่าสุขุมวิทตอนกลาง แต่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า และแหล่งไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ
  2. จุดเด่น: ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงและอ่อนนุช, มี Community Mall หลายแห่ง, ใกล้ทางด่วน, มีกลุ่มผู้เช่าที่หลากหลายทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มองหาคอนโดราคาดี
  3. โอกาสลงทุน: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการ Yield ที่ดี และ Capital Gain ในระยะกลางถึงยาว เนื่องจากราคาคอนโดยังไม่ Peak มีโอกาสเติบโตอีกมากจากแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ และการขยายตัวของเมือง
  4. คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการขายคอนโด สุขุมวิท: หากคอนโดของคุณอยู่ในโซนนี้ ให้เน้นจุดเด่นด้านราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับทำเลใกล้เคียง และศักยภาพในการเติบโตของพื้นที่ในอนาคต
  • แบริ่ง – ลาซาล (สุขุมวิท 105-107):
     
  1. ศักยภาพ: โซนนี้เป็นอีกหนึ่งทำเลที่กำลังมาแรง ด้วยการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท (สถานีแบริ่งและลาซาล) ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองเป็นเรื่องง่าย ราคาคอนโดยังคงเป็นมิตรกับนักลงทุนและผู้ซื้อกลุ่ม First Jobber
  2. จุดเด่น: มีโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง, ใกล้ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เช่น Bangkok Mall (โครงการในอนาคต), ใกล้ไบเทค บางนา และแหล่งงานขนาดใหญ่ ทำให้มี Demand ในการเช่าสูง
  3. โอกาสลงทุน: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการคอนโดเพื่อปล่อยเช่าให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง หรือพนักงานออฟฟิศที่ทำงานในบริเวณใกล้เคียง Yield ค่อนข้างดี และยังมีโอกาสสร้าง Capital Gain จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต
  4. คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการขายคอนโด สุขุมวิท: เน้นเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า การเข้าถึงแหล่งการศึกษาและแหล่งงาน รวมถึงความคุ้มค่าของราคาเมื่อเทียบกับศักยภาพของทำเลที่กำลังเติบโต

การมองหาโซนที่ "ยังไม่ Peak" แต่มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตที่ชัดเจน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการ ขายคอนโด สุขุมวิท เพื่อทำกำไรในระยะยาว และสำหรับเจ้าของคอนโดที่ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินของตนเอง

สรุปแล้ว การ ขายคอนโด สุขุมวิท ให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้อาศัยเพียงแค่การตั้งราคา แต่ต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกในตลาด กลุ่มผู้ซื้อ เทรนด์ราคา และศักยภาพของทำเลต่างๆ การนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปปรับใช้ในการวางกลยุทธ์จะช่วยให้คุณสามารถดึงดูดผู้ซื้อที่ใช่ และสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจได้อย่างแน่นอน หากคุณเป็นนักลงทุนที่มองหาคอนโดเพื่อปล่อยเช่า หรือเจ้าของห้องที่กำลังตัดสินใจ แนะนำคอนโดปล่อยเช่า-นักลงทุน คืออีกหนึ่งบทความที่คุณไม่ควรพลาด เพื่อเสริมความรู้และเพิ่มโอกาสในการลงทุนของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น


6. แนะนำคอนโดปล่อยเช่าง่าย สำหรับนักลงทุนจริงจัง

โครงการที่มีผู้เช่าต่อเนื่อง ติด BTS และ Yield ดี

หากคุณไม่อยากเสี่ยง ควรเริ่มจากโครงการที่ “ปล่อยเช่าง่ายเป็นพิเศษ” โดยเฉพาะถ้ามีผู้เช่าอยู่แล้ว จะยิ่งลดช่วงเวลาหาห้องว่างหลังซื้อ

ตัวอย่างโครงการจาก Connex ที่ปล่อยเช่าง่าย:

  • The Line Sukhumvit 71 (ติด BTS พระโขนง)
     
  1. 1 ห้องนอนปล่อยเช่าได้เดือนละ 17,000–20,000 บ.
     
  2. ราคาซื้อ Resale ประมาณ 3.5–3.9 ลบ.
     
  3. Yield ประมาณ 5.5%
     
  • Life Sukhumvit 48 (ใกล้ BTS พระโขนง)
     
  1. มีผู้เช่าต่อเนื่องจากกลุ่ม Digital Nomad
     
  2. ราคาห้อง Resale เริ่ม 2.7 ลบ.
     
  3. Yield สูงสุดแตะ 6.5%
     
  • Rhythm Sukhumvit 36–38 (เชื่อม BTS ทองหล่อ)
     
  1. ปล่อยเช่าง่ายกับกลุ่มผู้เช่าชาวญี่ปุ่น
     
  2. ราคาขายต่อยังขึ้นได้อีก
     

บทความแนะนำ: ค่าธรรมเนียม–ภาษี–ค่าใช้จ่ายก่อนขาย: รู้ไว้ไม่พลาด

-->