BRI ใจป้ำ! ชงจ่ายปันผลรอบปี 2566 เพิ่มอีก 0.603 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 30 เม.ย.67 นี้
BRI ใจป้ำ! ชงจ่ายปันผลรอบปี 2566 เพิ่มอีก 0.603 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 30 เม.ย.67 นี้
BRI ใจป้ำ! ชงจ่ายปันผลรอบปี 2566 เพิ่มอีก 0.603 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 30 เม.ย.67 นี้
ปี 2567 เปิดบ้านจัดสรร 17,000 ล้าน เน้นตลาดกลาง-บน สอดคล้องสภาวะตลาด
บริทาเนีย หรือ BRI เคาะชงที่ประชุมผู้ถือหุ้นจ่ายปันผลรอบปี 2566 เพิ่มอีก 0.603 บาท/หุ้น หลังกวาดรายได้ทั้งปี 2566 ไปกว่า 5,862 ล้าน หนุน Dividend Yield ทั้งปี ทะลุ 9.6% จากราคาปิดวันที่ 28 ก.พ.67 ที่ 7.50 บาท เตรียมเปิดโครงการบ้านเดี่ยว-บ้านแฝดปี 2567 รวม 20 โครงการ มูลค่าโครงการกว่า 17,000 ล้าน เน้นแบรนด์แกรนด์บริทาเนีย-เบลกราเวีย เจาะตลาดเซ็กเมนท์บน ควบคู่การบุกตลาดต่างจังหวัด สอดคล้องทิศทางกำลังซื้อ มั่นใจปี 2567 กวาดรายได้ทะลุ 7,500 ล้านตามเป้า
.jpg)
นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 6 เดือนที่เหลือของปี 2566 ในอัตรา 0.603 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับการจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.115 บาทก่อน หน้านี้ ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีจ่ายปันผลคิดเป็น Dividend Yield กว่า 9.6% จากราคาปิดเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ 7.50 บาท เป็นเงินปันผลจ่ายเป็นเงินสดทั้งสิ้นไม่เกิน 514 ล้านบาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 30 เม.ย. 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 2 พ.ค. 2567 และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 16 พ.ค. 2567
“สภาวะตลาดปี 2566 มีหลากหลายปัจจัยที่กระทบต่อกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ อาทิ อัตราดอกเบี้ย และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แต่บริทาเนียยังสามารถรักษาระดับผลประกอบการได้ จากการกระจายพอร์ตฟอลิโอการพัฒนาโครงการสู่หลากหลายเซ็กเมนท์ รวมถึงเริ่มกระจายการบุกเบิกตลาดไปยังจังหวัดศักยภาพใหม่ๆ ส่งผลให้ปี 2566 บริษัทมียอดขายกว่า 12,561 ล้านบาท มีรายได้รวม 5,862 ล้านบาท พร้อมทั้งมีกำไรสุทธิ 1,195 ล้านบาท และยังเดินหน้าจ่ายปันผลในอัตราที่จูงใจ ตอบแทนความไว้วางใจของผู้ถือหุ้น” นายธีรเดช กล่าว
สำหรับโครงการที่สามารถกวาดยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างยอดเยี่ยมระดับ Top 3 ในปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวในฝั่งตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯ ได้แก่ แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน-รามอินทรา (Grand Britania Wongwaen-Ramintra) เบลกราเวีย บางนา-พระราม 9 (Belgravia Bangna-Rama9) แกรนด์บริทาเนีย ราชพฤกษ์-พระราม 5 (Grand Britania Ratchaphruek-Rama 5)
นายธีรเดช กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ธุรกิจบ้านจัดสรรในปี 2567 นั้น กำลังซื้อในเซ็กเมนท์ต่ำกว่า 3 ล้านบาทยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินต่อกลุ่มตลาดดังกล่าวยังค่อนข้างเข้มงวด ตลาดศักยภาพในปีนี้จึงเป็นกลุ่มตลาดกลาง-บน (Middle to High) โดยเฉพาะกลุ่มราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลัง สถานการณ์ภาพรวมตลาดมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากอาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง และอาจมีมาตรการสนับสนุนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
ในปี 2567 บริษัทจึงเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 17,000 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ภายใต้แบรนด์เบลกราเวีย (Belgravia) ระดับราคาสูงกว่า 20 ล้านขึ้นไป และแบรนด์แกรนด์ บริทาเนีย ระดับราคาสูงกว่า 10 ล้านขึ้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาด ที่ลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้อแข็งแกร่งในหลากหลายทำเล ขณะเดียวกัน ยังกระจายพอร์ตฟอลิโอไปในอีก 6 จังหวัดนอกกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น
สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2567 จะนำร่องเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,350 ล้านบาท ได้แก่ 1.เบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ ราชพฤกษ์-พระราม 5 (Belgravia Exclusive Ratchaphruek-Rama 5) 2.เบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Belgravia Exclusive Pinklao-Boromrajonani) 3.บริทาเนีย เวสเกต (Britania Westgate) และ 4.บริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 (Britania Ratchaphruek 345) 5.แกรนด์ บริทาเนีย พระราม 9 – มอเตอร์เวย์ (Grand Britania Rama 9 – Motorway) 6.แกรนด์ บริทาเนีย ระยอง (Grand Britania Rayong) 7.โครงการ Branded Residences Villa เขาใหญ่ โดยไฮไลต์ อยู่ที่แบรนด์เบลกราเวีย ที่ให้ตัวบ้านบนที่ดินมากกว่า 100 ตร.วา พร้อมพื้นที่ใช้สอยสูงสุดถึง 600 ตร.ม. และมียูนิต จำนวนจำกัด
ขณะเดียวกัน บริษัทจะเดินหน้าแผน “Crafting for Everlasting Growth” รังสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง มาพร้อมกับ 3 กลยุทธ์ ประกอบด้วย 1.Sustainable Growth Crafting รังสรรค์ธุรกิจสู่ความยั่งยืน กระจายการเติบโตไปยังหลากหลายเซ็กเมนท์ 2.Happiness Crafting รังสรรค์เพื่อความสุข สร้างแบรนด์แห่งความสุข ด้วยหลากหลายนวัตกรรมและบริการภายในบ้าน เช่น Air Crafting และ Britania Craft Services มอบบริการทำความสะอาด อบโอโซน ล้างแอร์ ดูแลสวน ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าและระบบประปา ถึงภายในบ้าน ฟรีสูงสุด 3 ปี* 3.Craft B Best for All รังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดสู่สังคม ใส่ใจรังสรรค์ความยั่งยืนเพื่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งภายในโครงการ และภายนอกโครงการ อาทิ การเดินหน้าโครงการ Craft Park, การเดินหน้าด้านการจัดการของเสีย (Waste Management), การจัดการขยะเศษอาหารนำมาเปลี่ยนเป็นปุ๋ย (Food Waste) และการบริจาคสิ่งของเหลือใช้ ให้กับมูลนิธิต่างๆ
สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 5 แบรนด์ ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท 2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-end ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท 5.Branded Residences Villa บ้านพักตากอากาศระดับ Luxury ราคา 19-60 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2566 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 42 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 53,772 ล้านบาท