สวาทยานนท์รุ่น 3 เปิดเกมรุกอสังหาฯ เจาะทำเลชานเมืองผุดบ้านแฝดดีไซน์หรู
สวาทยานนท์รุ่น 3 เปิดเกมรุกอสังหาฯ เจาะทำเลชานเมืองผุดบ้านแฝดดีไซน์หรู
สวาทยานนท์รุ่น 3 เปิดเกมรุกอสังหาฯ
เจาะทำเลชานเมืองผุดบ้านแฝดดีไซน์หรู
ทายาทรุ่น 3 ตระกูลสวาทยานนท์ เปิดเกมรุกอสังหาฯเจาะทำเลชานเมือง ผุดโครงการ The Radiant บางใหญ่-เวสเกต บ้านแฝดดีไซน์ใหม่หน้ากว้าง 12.5 เมตร เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชั่นเทียบเท่าบ้านเดี่ยวในราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท มั่นใจดีมานด์ในตลาดบ้านแฝดยังเติบโต พร้อมเดินหน้าขยายลงทุนต่อเนื่อง
นางสาวชลธิชา สวาทยานนท์ ผู้จัดการโครงการ บริษัท กู๊ด แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท กู๊ด แอสเสทในเครือ สุขนิเวศน์ กรุ๊ป เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อตั้งโดยคุณวิชัย สวาทยานนท์ (คุณปู่) ประธานกรรมการ โดยมีคุณกรวิชญ์ สวาทยานนท์ (คุณพ่อ) เป็นกรรมการผู้จัดการ ได้เล็งเห็นการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบจึงให้ความสนใจและเริ่มพัฒนาโครงการมาตั้งแต่ปี 2546 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี ปริมณฑล และขยายการลงทุนไปตามจังหวัดหัวเมืองต่างๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรีและระยอง ที่ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม อยู่ระหว่างดำเนินการเกือบ 20 โครงการ
“เรามองเห็นโอกาสในตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในพื้นที่ปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ บริษัทจึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพสูงสำหรับคนชานเมืองจึงเป็นเหตุผลในการเปิดโครงการใหม่ล่าสุด เดอะ เรเดียนท์ (The Radiant) บางใหญ่-เวสเกต โครงการบ้านแฝดรองรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการขยายครอบครัว และกลุ่มลูกค้า Young Family เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้ชีวิตใหม่ๆ บนทำเลที่ไม่ไกลจากเมืองและสามารถเชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย”
สำหรับโครงการ เดอะ เรเดียนท์ (The Radiant) บางใหญ่-เวสเกต เป็นโครงการบ้านแฝด 2 ชั้น โมเดลใหม่หน้ากว้าง 12.5 เมตร มีพื้นที่ใช้สอย 166 ตารางเมตร บนที่ดินเริ่มต้น 39 ตารางวา จำนวน 135 ยูนิต เนื้อที่โครงการ 23 ไร่ 68.1 ตารางวา มูลค่า 712 ล้านบาท ออกแบบในสไตล์ Modern Classic ที่หรูหรา มีฟังก์ชั่นครบครันเทียบเท่าบ้านเดี่ยว ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องซักรีด และที่จอดรถ 2 คัน พร้อมพื้นที่สวนรอบบ้าน และพื้นที่ส่วนกลางกว่า 3,200 ตารางเมตร รองรับทุกกิจกรรมการอยู่อาศัย ทั้งคลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และ Jogging Track ในราคาเข้าถึงได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยมีกำหนดเปิดตัวโครงการในเดือนกันยายน 2567
“ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของโครงการจะเน้นกลุ่มรายได้ปานกลาง และกลุ่มรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง ซึ่งสอดคล้องกับตลาดกลุ่มใหญ่ และเป็น Real Demand ในปัจจุบัน เป็นกลุ่มที่ต้องการขยับขยายครอบครัว และกลุ่มลูกค้า Young Family ที่ต้องการใช้ชีวิตใหม่ๆ ใส่ใจทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยของสมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยจะทำตลาดในรูปแบบ Personalization ที่สามารถเข้าไปถึงไลฟ์สไตล์และความสนใจของลูกค้าแต่ละราย ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจและใส่ใจในความต้องการของพวกเขา โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 ไว้ที่ 104 ล้านบาท”
นางสาวชลธิชา กล่าวต่ออีกว่า สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท กู๊ด แอสเสทในเครือ สุขนิเวศน์ กรุ๊ป จะมุ่งเน้นการออกแบบที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูงให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้า เลือกทำเลที่ดีและการบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยมเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ โดยมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนานเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนและพัฒนาโครงการ รวมถึงการส่งเสริมการตลาดควบคู่กับการก่อสร้างและบริหารจัดการ ที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในบริษัท
“แผนงานระยะสั้นเราจะโฟกัสที่การพัฒนาโครงการ เดอะ เรเดียนท์ (The Radiant) บางใหญ่-เวสเกต เป็นหลัก ส่วนในระยะกลาง บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายตลาดไปยังพื้นที่อื่นๆ ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในระยะยาว เรามุ่งหวังที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ด้วยการสร้างแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และพัฒนามาตรฐานที่อยู่อาศัยแนวราบให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล”
นางสาวชลธิชา กล่าวอีกว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันยังคงมีความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ผันผวนและการแข่งขันที่สูง แต่เรามองเห็นโอกาสในตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยในตลาดบ้านแฝด ที่มีดีมานด์เพิ่มขึ้นทุกปีต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าการพัฒนาโครงการที่ตอบสนองความต้องการ แบบบ้านฟังก์ชั่นที่ตรงไลฟ์สไตล์ และมีคุณภาพ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านอย่างครบครัน ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืน
“สำหรับบริษัทอสังหาฯรายเล็กการที่จะยืนหยัดแข่งขันในตลาดได้ควรเน้นการสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพสูงและมีความเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้าและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า การใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการและการตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทมีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น” นางสาวชลธิชากล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง ตระกูลสวาทยานนท์ เป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนานไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงานมหาทุน พลาซ่า ย่านเพลิตจิต อาคารไทย ซีซี ทาวเวอร์ ย่านสาทร อาคารเอ็มเอส สยามทาวเวอร์ ย่านพระราม 3 เป็นต้น