ติดต่อ Connex Property ทางไลน์ ติดต่อ Connex Property ทาง facebook ติดต่อ Connex Property ทาง Message Facebook ติดต่อ Connex Property ทาง โทรศัพท์มือถือ
หน้าหลัก / พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ประมวลผลประกอบการ ครึ่งปีแรก ปี 67

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ประมวลผลประกอบการ ครึ่งปีแรก ปี 67

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ประมวลผลประกอบการ ครึ่งปีแรก ปี 67

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ประมวลผลประกอบการ ครึ่งปีแรก ปี 67

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ประมวลผลประกอบการ ครึ่งปีแรก ปี 67

เปิด TOP 10 อสังหาฯ รายได้รวมกว่าแสนล้าน - เผย 6 หุ้นอสังหาฯ ปันผลโดดเด่น
 

บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ประมวลผลประกอบการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2567 พบว่าแม้เศรษฐกิจไทยจะเผชิญความท้าทายจากหนี้ครัวเรือนสูงและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น แต่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ยังคงสามารถขึ้นแท่นทำรายได้รวมได้สูงสุดอันดับ 1 ด้วยรายได้สูงสุดถึง 19,784 ล้านบาท รองลงมาตกเป็นของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)  ทำรายได้ไปถึง 17,845 ล้านบาท และ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ทำรายได้ 14,725 ล้านบาท ติดอันดับท็อป 3 ของตลาดเช่นกัน โดยรายได้รวมของ 10 บริษัทพบว่ามีรายได้รวมมากกว่า 103,184 ล้านบาท นอกจากนี้  ยังพบ 6 หุ้นอสังหาฯ “SIRI, SPALI, SC, PSH, QH, LPN” เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล นำโดย SIRI ยีลด์สูงสุดที่ 4.4 % และการที่บริษัทเหล่านี้สามารถรักษาผลประกอบการได้ดีในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวน สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย และความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบการ

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า “แม้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกจะเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยลบหลายประการ ทั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น การไม่ผ่อนคลายมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย และปัญหาหนี้ครัวเรือน  ซึ่งสอดคล้องกับทางสมาคมธนาคารไทยที่คาดการณ์ว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยสิ้นปีนี้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแตะระดับ 91.4% ต่อ GDP ซึ่งยังคงเป็นปัญหาหลักของเศรษฐกิจไทย  อย่างไรก็ตาม ยังคงมีสัญญาณบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น การลดภาษีและค่าธรรมเนียมการโอนสำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯได้ในบางส่วน ประกอบกับตลาดอสังหาฯยังคงมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยในตลาดระดับลักซูรีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายยังคงสามารถรักษารายได้และกำไรได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและมองหาโอกาสใหม่ๆ ในตลาด”

สำหรับแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง นายอนุกูล มองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีความไม่แน่นอน ผู้ประกอบการยังคงมองหาโอกาสในการแข่งขัน หาจุดแข็งของตัวเองเพื่อตอบสนอความต้องการของลูกค้า โดยบางกลุ่มมีการทำตลาดแบบกระจายหลากหลายเซกเมนต์  หรือมีการทำการตลาด เจาะกลุ่ม Niche Market มากขึ้น เช่น ที่อยู่อาศัยแบบ  Pet Friendly  กลุ่มแคมปัส  เป็นต้น  หรือเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการลงทุนด้วยในช่วงนี้ เฉพาะตลาดให้เช่ากลับมาคึกคักด้วยได้รับแรงหนุนจากการกลับมาของชาวต่างชาติ  อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายยังคงจับตามองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์  และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ รวบรวมผลผู้ประกอบการที่มีรายได้และกำไรมากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 10  อันดับ ดังนี้  อันดับ 1 แสนสิริ ซึ่งมีรายได้มากถึง 19,784 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 2,702 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 7%  เอพี (ไทยแลนด์) ตามมาเป็นอันดับที่ 2 ด้วยรายได้รวม 17,845 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 2,277 ล้านบาทซึ่งรายได้ส่วนใหญ่รับรู้ในช่วงไตรมาสที่ 2  อันดับที่ 3 คือ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ตามมาด้วยศุภาลัย ซึ่งทั้ง 4 อันดับแรกมีรายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาทขึ้นไปทุกราย และกำไรสุทธิก็มากกว่า 2,000 ล้านบาทขึ้นไปเช่นกัน  ตามมาด้วย พฤกษา,  เอสซี แอสเสท,  ออริจิ้น, แอสเซทไวส์, คิว เฮ้าส์  และอนันดา ตามลำดับ  

รวมทั้งมีการสำรวจ 6  หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ครึ่งปีแรก ปี 67 พบว่าแสนสิริยังคง โดดเด่นเป็นอันดับ 1 จ่ายปันผลหุ้นละ 0.07 บาท ยีลด์สูงถึง 4.40% รองลงมาศุภาลัย จ่ายปันผลหุ้นละ 0.60 บาท ยีลด์ 3.6% ตามมาด้วย เอสซี แอสเสท จ่ายปันผลหุ้นละ 0.05 บาท ยีลด์ 2.0%  พฤกษา จ่ายปันผลหุ้นละ 0.15 บาท คิว เฮ้าส์  จ่ายปันผลหุ้นละ 0.03 บาท และ เอลพีเอ็น จ่ายปันผลหุ้นละ 0.05 บาทโดยทั้ง  3 บริษัท  ยีลด์ 1.7.%  เท่ากัน   

"ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 คาดว่ามีแนวโน้มที่จะค่อยๆกลับมาฟื้นตัวได้เล็กน้อยหลังจากที่หดตัวมาในช่วงก่อนหน้า  ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ และความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสสุดท้าย ยังเผชิญความท้าทายจากต้นทุนที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ย และการแข่งขันที่รุนแรงจากโปรโมชั่น  ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง หรือมีความต้องการเฉพาะ Niche Market มากขึ้น และเสริมแกร่งทางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อรับมือกับสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ"  นายอนุกูล กล่าวทิ้งท้าย

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

หรือ

เบอร์โทรศัพท์ +66 99-019-9900 ไลน์ @connexproperty FB Messenger FB Messenger WhatsApp WhatsApp