อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ตฟื้นตัวแข็งแกร่งในช่วงต้นปี 2024

 

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ตฟื้นตัวแข็งแกร่งในช่วงต้นปี 2024

 

ภาพรวมตลาด (Market Overview)

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูเก็ตแสดงถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในครึ่งปีแรกของปี 2024 โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมถึง 4.3 ล้านคน ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดเพียง 7% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งสูงขึ้นถึง 2.6 ล้านคน ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 42% เมื่อเทียบกับปีต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขก่อนเกิดโรคระบาด คาร์ลอส มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาของ Knight Frank เน้นย้ำว่า "การปรับปรุงความสามารถในการขนส่งทางอากาศคาดว่าจะช่วยส่งเสริมการเติบโตต่อไปในครึ่งปีหลัง"

จำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอยู่ที่ 1.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6% จากปีที่แล้ว แม้ว่าจะยังต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด 13% จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีต่อปี แม้ว่าจะยังคงต่ำกว่าตัวเลขก่อนเกิดโรคระบาด 14%

 

ในไตรมาสแรกของปี 2024 นักท่องเที่ยวรัสเซียกลายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใหญ่ที่สุด ตามมาด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงซบเซาอยู่ก็ตาม ภูเก็ตยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากอินเดียและออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงตลาดระยะใกล้แบบดั้งเดิม เช่น มาเลเซียและสิงคโปร์

การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วยยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงแรมอย่างเห็นได้ชัด อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 84% ซึ่งเพิ่มขึ้น 3 จุดเปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว และสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด 2 จุดเปอร์เซ็นต์ ในช่วงฤดูท่องเที่ยวสูงสุด อัตราการเข้าพักเกิน 90% ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ แม้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 74-75% ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน

ค่าเฉลี่ยราคาห้องพัก (ARR) ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 6,837 บาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับปีต่อปี และสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดถึง 64% คาร์ลอสกล่าวว่า การเพิ่มขึ้นนี้ "เป็นผลมาจากการเติบโตในกลุ่มโรงแรมหรูและโรงแรมระดับสูง"

ครึ่งปีแรกของปี 2024 มีโรงแรมใหม่เปิดหนึ่งแห่ง ทำให้จำนวนห้องพักรวมเป็น 44,838 ห้อง ภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีโรงแรมเพิ่มเติมอีก 5 แห่ง เพิ่มห้องพักอีก 1,117 ห้อง คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 3.5% จากปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าการเติบโตเฉลี่ย 2.5% ต่อปีที่สังเกตเห็นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

 

เมื่อมองไปข้างหน้า คาร์ลอสชี้ให้เห็นว่า "การฟื้นตัวของความต้องการในประเทศที่ต่อเนื่อง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนลงซึ่งทำให้การเดินทางระหว่างประเทศมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นสำหรับคนไทย รวมกับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แข็งแกร่ง คาดว่าจะดำเนินต่อไปในครึ่งปีหลัง" ฤดูท่องเที่ยวสูงสุดในไตรมาสที่สี่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแรงกระตุ้นนี้ โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนที่เอื้ออำนวย ความสามารถในการขนส่งทางอากาศที่เกือบจะฟื้นตัวเต็มที่ และนโยบายยกเว้นวีซ่าที่สนับสนุนการเติบโตนี้

นอกจากนี้ คาร์ลอสยังกล่าวว่า "ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวรัสเซียที่มองหาจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยกว่าเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวของภูเก็ตได้อีก" เกาะภูเก็ตคาดว่าจะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติระหว่าง 2.5 ถึง 2.7 ล้านคนในช่วงครึ่งปีหลัง อัตราการเข้าพักคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการหลั่งไหลเข้ามานี้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยวสูงสุด อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการปรับค่า ARR ขึ้นอย่างมาก คาดว่าการปรับราคาขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับการสนับสนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนและอัตราแลกเปลี่ยนที่เอื้ออำนวย

แม้ว่าแนวโน้มจะเป็นบวก แต่คาร์ลอสเตือนว่า "การพัฒนาโรงแรมใหม่อาจเผชิญกับข้อจำกัด เนื่องจากต้นทุนที่ดินและการเงินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่สูง สิ่งนี้อาจจำกัดอุปทานใหม่และนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอัตราการเข้าพักในโรงแรมที่มีอยู่"